Nord Composites
เรซิ่น และเจลโค้ท สำหรับทำโมลด์ ทำเรือ
เรซิ่นสำหรับการทำโมลด์ “Tooling Resin”
ปัจจุบันการผลิตโมลด์แม่แบบโดยทั่วไปในประเทศไทย มักใช้เรซิ่นปกติในท้องตลาด โดยอาจเลือกชนิดที่มีคุณภาพสูงกว่าปกติ แต่ยังคงพบปัญหาการหดตัวที่ไม่เท่ากัน ทำให้แม่แบบไม่ได้รูปทรงตามต้องการ
จึงต้องมีการเผื่อโมลด์ และแก้ไขโมลด์ให้เหมาะสม จึงส่งผลให้การทำงานไม่แน่นอน ล่าช้า เสียเวลา และเสียค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งไม่สามารถผลิตโมลด์ได้อย่างรวดเร็วและมีขนาดที่เท่ากัน หากต้องการโมลด์หลายๆตัว เพื่อให้สามารถผลิตชิ้นงานได้รวดเร็วขึ้น จำนวนมากขึ้น
ปัจจุบันในต่างประเทศได้มีการผลิตเรซิ่นสำหรับการทำโมลด์โดยเฉพาะ ซึ่งมีคุณสมบัติที่เหมาะสมต่อการผลิตโมลด์โดยเฉพาะดังนี้ | |
|
Norester RM 2000/50, RM 2550 คือโพลีเอสเตอร์เรซิ่นชนิดไม่อิ่มตัวสูตรพิเศษ ถูกออกแบบสำหรับการผลิตโมลด์ ที่มีคุณภาพสูงและมีอายุการใช้งานนาน เพื่อผลิตชิ้นงานเทอร์โมเซ็ทคอมโพสิท ด้วยการที่มีส่วนผสมของตัวทำปฏิกิริยาเพียงอย่างเดียว
ทำให้เรซิ่นชนิดนี้ซึ่งมีส่วนผสมของตัวเร่งและฟิลเลอร์อยู่ในตัวแล้ว สามารถทำปฏิกิริยาแข็งตัวได้ในความร้อนของอุณหภูมิห้องได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทำให้สร้างชิ้นงานแม่แบบที่ไม่หดตัวและไม่เห็นชั้นรอยเส้นใยบนผิวหน้า
เนื่องจากการทำปฏิกิริยาการแข็งตัวเป็นไปอย่างรวดเร็ว และง่ายต่อการทำงานของ RM 2000/50, RM 2550 ทำให้สามารถผลิตโมลด์ต่างๆ ได้ภายในวันเดียว
จากการคัดเลือกฟิลเลอร์ที่แต่งเติมลงไปอย่างระมัดระวังใน RM 2000/50, RM 2550 ทำให้การหดตัวตามปกติที่เกิดขึ้นจากเรซิ่นทำแบบโดยทั่วไป ถูกทำให้เกิดสมดุลในตอนสุดท้ายของการแข็งตัวของโมลด์
ทำให้ไม่เกิดการหดตัวและคงสภาพเท่าเดิม ตามขนาดของตัวต้นแบบ และให้ผิวหน้าที่สมบูรณ์แบบในการผลิตตัวสินค้าต่อไป
คำแนะนำในการใช้งาน ข้อกำหนดของสถานที่ผลิต |
|
สิ่งจำเป็นในการผลิตให้เกิดการแข็งตัวตามมาตรฐานของ RM 2000/50, RM 2550 สถานที่ผลิตต้องมีอุณหภูมิไม่น้อยกว่า 15°C โดยควรอยู่ที่ 18-25°C หากอุณหภูมิสูงกว่า 25°C และต้องการผลิตโมลด์ขนาดใหญ่ ขอแนะนำ LGT VERSION (LONG GEL TIME VERSION) หากอุณหภูมิต่ำมากจุดในการแข็งตัวที่เหมาะสมเพื่อให้ได้คุณสมบัติการไม่หดตัวจะไม่สามารถทำได้ 1. การเตรียมต้นแบบ ผิวหน้าของต้นแบบ จะต้องไม่มีฟองอากาศ ตำหนิ หรือส่วนที่ไม่เรียบร้อย และต้องใช้น้ำยาถอดแบบที่เหมาะสมเตรียมผิวให้เรียบร้อย |
4 Norester RM 2000/50, RM 2550 กับการใช้งานผสมตัวแข็ง (Catalyst) ก่อนใช้งาน ต้องคนเรซิ่นให้เข้ากันอย่างดีจนเป็นเนื้อเดียวกันก่อน catalyst MEKPO เป็นตัวแข็งสำหรับ Norester RM 2050, RM 2550 โดยปกติใช้ในอัตรา 1-1.25% จึงจะเหมาะสม หากใช้มากกว่า 1.25% หรือ น้อยกว่า 1% catalyst MEKPO จะมีผลทำให้คุณสมบัติในการแข็งตัวเต็มที่ลดลงและชิ้นงานไม่มีคุณภาพดีเท่าที่ควรจะเป็น 5 การลงชิ้นงานด้วย Norester RM 2000/50, RM 2550 Norester RM 2000/50, RM 2550 มีความหนืดต่ำ (เหลวมาก) ทำให้ง่ายในการทำชิ้นงาน ในอัตราส่วนผสมเรซิ่นต่อใยแก้ว 4 ต่อ 1 หลังจากลงชั้นผิวแรกแล้วสามารถลงใยแม็ท เบอร์ 450 กรัม/ตรม. 3-4 ชั้นพร้อมกันได้เลย หรือเท่ากับการพ่นใยแก้ว + เรซิ่น 1300-1800 กรัม/ตรม. และจำนวนความหนาของชั้นใยแก้วคิดเป็นน้ำหนัก 2100 กรัม/ตรม. สูงสุดสามารถทำงานได้ในเวลาเดียวก่อนเรซิ่นจะแข็งตัว หลังจากชั้นแรกแข็งตัวและมีการเย็นตัวลง สามารถลงชั้นต่อไปเพิ่มอีก 1800-2100 กรัม/ตรม. ตามความหนาของโมลด์ที่ต้องการ 6 การแข็งตัวเต็มที่ของ NORESTER RM 2000/50, RM 2550 7 การเสริมแรงให้โมลด์ และวัสดุที่ใช้เสริมแรง |
ตารางอัตราส่วนการใช้เจลโค้ตและเรซิ่นต่อตารางเมตร สำหรับโมลด์เปิด (ด้านเดียว) และโมลด์ปิด ระบบ LRTM (สองด้าน)
โมลด์ตัวเมีย Female mould โมลด์ล่าง
ชั้นของโมล์ด | 5 ตารางเมตร | 10 ตารางเมตร | 15 ตารางเมตร | 30 ตารางเมตร | |
เจลโค้ต GC206/207 | 800 ไมครอน หนา 0.8 มิล | 5 กก | 10 กก | 15 กก | 30 กก |
ผิวชั้นแรก R 680 TPA | ใยแก้ว 300 กรัม เรซิ่น/ใยแก้ว 2: 1 หนา 0.5 มิล | 3 กก | 6 กก | 9 กก | 18 กก |
ชั้นโมลด์ RM 2000/50 | ใยแก้ว 4 x 450 กรัม เรซิ่น/ใยแก้ว 4 : 1 หนารวม 7 มิล | 36 กก | 72 กก | 108 กก | 216 กก |
ชั้นโมลด์ RM 2000/50 | ใยแก้ว 8x 450 กรัม เรซิ่น/ใยแก้ว 4 : 1 หนารวม 12.7 มิล | 72 กก | 114 กก | 216 กก | 432 กก |
ชั้นโมลด์ RM 2000/50 | ใยแก้ว 4 x 450 กรัม เรซิ่น/ใยแก้ว 4 : 1 หนารวม 18.4 มิล | 324 กก | 648 กก |
โมลด์ตัวผู้ Male mould โมลด์บน
ชั้นของโมล์ด | 5 ตารางเมตร | 10 ตารางเมตร | 15 ตารางเมตร | 30 ตารางเมตร | |
เจลโค้ต GC206/207 | 800 ไมครอน หนา 0.8 มิล | 5 กก | 10 กก | 15 กก | 30 กก |
ชั้นผิวหน้า 3 มม R 680 TPA | ใยแก้ว 3 x 300 กรัม เรซิ่น/ใยแก้ว 2: 1 หนา 4 มิล | 9 กก | 18 กก | 27 กก | 54 กก |
ตารางแสดงลำดับความแข็งแรงของเรซิ่น RM2000/50
ระยะเวลา | 2 ชม. | 3 ชม. | 4 ชม. | 5 ชม. | 6 ชม. |
ความแข็ง บาร์โค Barcol (934-1) | 20 | 25 | 30 | 35 | 45 |
ลำดับเวลาการแข็งตัวของผิวเรซิ่น RM2000/50 ทดสอบโดยวัดความแข็งแบบ Barcol hardness ด้วนการลงชั้นไฟเบอร์กลาสCSM 450 g/m2 4 ชั้น
และใช้เรซิ่น RM 2000/50 ผสมแคตตาลิส Butanox M60ในอัตรา 1%
การทำโมลด์ขนาดใหญ่โดยระบบของ RM2000/50 โดยทั่วไปหากโมลด์มีพื้นที่กว้างเกินกว่าที่จะเคลือบเรซิ่นบนใยแก้ว 450 จำนวน 4 ชั้น (หรือ 1800 กรัมฝตรม) ในเวลาก่อนที่เรซิ่นจะแข็งตัว ดังนั้นจึงต้องมีการแบ่งส่วนในการเคลือบใยแก้วเป็นส่วนๆ หรือเสริมความหนาโดยใช้ แผ่นโฟม หรือไม้บราซ่า
ภาพลำดับการทำโมลด์โดยการแบ่งเคลือบเรซิ่นบนใยแก้วครั้งละ 1/4 และ 1/2 และ 3/4 จนครบ 4/4 จำนวน 4 ชั้น ดังภาพข้างล่าง
ดาวน์โหลดรายละเอียดไฟล์เอกสารเพิ่มเติม
File Name | Download |
GC 207.206 technical data anglais NTG052E_11-05.05 (27 Kb) | |
NORESTER 680TP technical data Anglais NTR079E 10-05-05 (19 Kb) | |
RM 2000/50, RM 2000 /50 LGT(27 Kb) | |
RM 3000 vinyl ester resin for hand lay up mould | |
RM 5000 polyester resin for infusion mould | |
RM 6000 vinyl ester resin for infusion mould | |
CATALYST 2000 (41 Kb) | |
MSDS GC 206.207 (18 Kb) | |
MSDS 680.doc (18 Kb) | |
MSDS RM 2000/50 (19 Kb) | |
ขั้นตอนการใช้งานเรซิ่นไม่หดตัว (76 Kb) | |
GC 195 9901 c Tech (34 Kb) | |
GL 195 W (37 Kb) | |
NCL 804PRBV GREY anglais (25 Kb) | |
NORD APRRET 230 NTG 145A (35 Kb) | |
NORD LAQUE 210 NTG146A (30 Kb) | |
TECHNICAL DATA cd 304 TH LGT |
อายุการใช้งานของโมลด์และการเลือกวัสดุที่จะนำมาใช้งาน
อายุของโมลด์ขึ้นอยู่กับวิธีการสร้างของโมลด์นั้นๆ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุต่างๆ และวิธีการปฏิบัติต่อโมลด์ขณะทำงานสร้างชิ้นงานตามมา ดังนั้นคำแนะนำเป็นเพียงการชี้แนะเท่านั้น อย่างไรก็ตามจากประสบการณ์ที่ได้จากลูกค้า
ทำให้รู้ว่าอายุของการใช้งานต่อสภาพการทำงาน (สร้างชิ้นงาน) ด้วยระบบของ RM 2000/50, RM 2550 ดังนี้
Isophalic gel coat & Norester RM 2000/50, RM 2550 สามารถใช้ได้ถึง 250 โมล์ดครั้ง (ถอดชิ้นงาน)
Vinyl ester gel coat & Norester RM 2000/50, RM 2550 สามารถใช้ได้มากกว่า 250 โมล์ดครั้ง (ถอดชิ้นงาน)
Vinyl ester gel coat ,Vinyl ester ชิ้นที่ 1 & Norester RM 2000/50, RM 2550 สามารถใช้ได้ถึง 1000 โมล์ดครั้ง (ถอดชิ้นงาน)
ข้อมูลทางเทคนิค
คุณสมบัติทางกลของ Norester RM 2000/50, RM 2550 เมื่ออยู่ในสภาพเป็นของแข็ง
* ทดสอบเรซิ่นโดยเสริมแรงด้วยไฟเบอร์กลาส 23% |
การเก็บและดูแลรักษา
เรซิ่นสำหรับทำโมลด์ NORESTER RM 2000/50, RM 2550 เป็นวัตถุที่อยู่ในการดูแลของวัตถุที่ติดไฟได้สูง สินค้าจึงควรเก็บรักษาในที่เย็นในภาชนะบรรจุปิดผนึก ในอุณหภูมิไม่เกินกว่า 20°C หลีกเลี่ยงจากแหล่งความร้อนและการถูกแสงแดดโดยตรง
ข้อมูลที่เผยแพร่ในเอกสารนี้เป็นข้อมูลจริง แต่ไม่มีการรับรองหรือประกันใดๆ
การทำต้นแบบ และ แม่แบบโมลด์
ดาวน์โหลดภาพขั้นตอนการทำต้นแบบถึงโมล์ด 15 ขั้นตอน From Plug2Mould
ขั้นตอนการทำต้นแบบ ตั้งแต่ขั้นตอนที่ 1-8 1A เตรียมก้อน PU FOAM แกะผิวด้วยเครื่อง CNC บนโพลียูรีเทนโฟมให้ต่ำกว่าระดับที่ต้องการสุดท้ายระหว่าง -8 ถึง -12 มม.(ข้ามไปขั้นตอน 3) 1B เตรียมก้อนโพลีสไตรีนโฟม แกะผิวโฟมด้วยเครื่อง CNC บนโพลีสไตรีนโฟมให้ต่ำกว่าระดับที่ต้องการสุดท้าย ระหว่าง -8 ถึง -12 มม. 2B เคลือบเรซิ่น NORESTER 854 หนา 0.8 - 1 มม. บนโพลีสไตรีนโฟม ความหนาแน่น > 25 กก/ลบม ด้วยแปรงหรือลูกกลิ้ง แล้วปูใยแก้ว เบอร์ 300 จำนวน 2 ชั้นพร้อมลงเรซิ่นกลิ้งด้วยลูกกลิ้ง โดยให้มีขอบกว้างกว่าต้นแบบประมาณ 10-15 ซม.โดยรอบ ปล่อยให้แข็งตัว 24 ชม. ก่อนพ่นด้วย 804PVRB GRAY 3 พ่น NCL 804 PURB GRAY บนต้นแบบ ด้วยเครื่องพ่น (อัตราลม 20: 1) โดยพ่นเป็นชั้นบาง ๆ หลาย ๆ ครั้ง ให้ได้ความหนา 5-6 มม. ให้ได้ความหนาสุดท้าย A - 8 มม. ด้วยเครื่อง CNC : 2 ชั้น B - 12 มม. ด้วยเครื่อง CNC : 3 ชั้น
5 พ่นชิ้นงานด้วย Appret 230 ขนาด 450 - 600 ไมครอน หลาย ๆ ครั้ง 6 ขัดผิว Nord Appret 230 ด้วยกระดาษทรายเบอร์ละเอียดให้เรียบ 7 พ่น NORD LAQUE 210 หลาย ๆ ครั้ง บนผิวชิ้นงาน จนได้ผิวโมลด์ ชั้นสุดท้าย 8 ขัดผิวต้นแบบด้วยกระดาษทรายเปียกและแห้ง ขัดเงาชิ้นงานต้นแบบด้วยน้ำยาขัดหยาบและขัดละเอียด จนชิ้นงานต้นแบบเป็นเงามันให้มากที่สุด
ขั้นตอนการทำโมลด์ ตั้งแตขั้นตอนที่ 9-15 9 ลงน้ำยาลอกแบบ 7-8 ชั้น
10B ทา GC 206 ประมาณ 2 รอบ จนหนา 700-800 ไมครอน 11 ลงชิ้นแรกด้วย R 680 ด้วยใยแก้วเบอร์ 100 หรือ 255 กรัม / ม2 12 ลงชั้นเรซิ่นด้วย RM 2000 หรือ RM 2550 ด้วยใยแก้วเบอร์ 450 จำนวน 4 ชิ้น 13 กลิ้งลูกกลิ้งไล่ฟองอากาศจนเรียบ 14 เสริมความแข็งแรงของโมลด์ 15 ถอดชิ้นงานโมลด์จากต้นแบบ ขั้นตอนการใช้งานเรซิ่นไม่หดตัว RM-2000/50 โดยละเอียด 2. การลงชั้นน้ำยาถอดแบบ 3. การลงชั้นของเจลโค้ท 4. การลงชั้นไฟเบอร์ชั้นแรก 5. การลงชั้นเรซิ่น RM-2000/50 และชั้นใยแก้ว การแข็งตัวเต็มที่ของ RM-2000/50 อายุการใช้งานของโมลด์ |